ให้ ลูก นอนห้องแอร์ ได้หรือไม่? … เด็กแรกเกิดควรให้อยู่ในห้องแอร์ หรือห้องธรรมดาดีคะ และจำเป็นต้องเลือกผ้าบางๆ สำหรับทารกเสมอไปหรือเปล่า? กลัวลูกจะเป็นผื่นคันง่าย แต่ก็กลัวลูกจะหนาวค่ะ
เด็กโตหรือผู้ใหญ่จะทนความหนาวเย็นได้ดีกว่าเด็กทารก จึงควรแต่งตัวให้เพียงพอหรืออุ้มกอดซึ่งถือเป็นการควบคุมอุณหภูมิได้ดีที่สุด สิ่งสำคัญคืออย่าวางทารกไว้ตรงตำแหน่งลมจากเครื่องปรับอากาศโดยตรง (ไม่ว่าจะเป็นแอร์หรือฮีทเตอร์) เพราะจะเกิดอันตรายกับเด็กจากอุณหภูมิที่เพิ่มลดอย่างรวดเร็ว ปัญหาที่พบได้บ่อย คือ พ่อแม่มักกังวลว่าลูกจะหนาวเกินไปจึงพยายามแต่งตัวให้หนาหลายชั้น และหากห้องนั้นอุ่นอยู่แล้วจะเกิดปัญหาผดผื่นร้อน หรืออาจเกิดอันตรายจนเกิดภาวะเสียชีวิตขณะนอนหลับ(SIDS) เนื่องจากร้อนเกินไป (overheating)
ธรรมชาติของแอร์นั้นจะควบคุมอุณหภูมิ และความเย็นภายในห้องได้อย่างทั่วถึง ทำให้เนื้อตัวไม่เหนียวเหนอะนะ ลดความหงุดหงิด ความไม่สบายตัว รวมทั้งกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้อีกด้วย จะเห็นได้ว่าไม่ว่าเด็ก ๆ หรือผู้ใหญ่ที่อยู่ในห้องแอร์จะนอนหลับได้สนิท และอารมณ์ดีกว่าอยู่ในห้องข้างนอกที่มีอากาศร้อนอบอ้าว
แต่ทว่าก่อนที่คุณจะติดตั้งแอร์ในห้องนอนลูก ควรจะเลือกขนาดบีทียูของแอร์ให้สอดคล้องกับ ความกว้างของห้อง รวมทั้งการติดตั้งพัดลมดูดอากาศ ซึ่งจะช่วยทำให้มีออกซิเจนหมุนเวียนอยู่ในห้องเพิ่มขึ้น อีกทั้งการดูแลความสะอาดจะต้องล้างที่กรองฝุ่นทุกอาทิตย์ เพราะอากาศเมืองร้อนอย่างบ้านเรามักจะมีฝุ่นเยอะ ถ้าไม่ล้างที่กรองฝุ่นบ่อย ๆ อาจจะทำให้เชื้อโรคหมักหมมจนเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคได้
เทคนิคเปิดแอร์ในห้องลูกเล็ก
มีหลายบ้านที่ปฏิเสธการใช้แอร์ได้ยาก เพราะฉะนั้นก่อนอื่นคุณพ่อคุณแม่มาดูกันก่อนค่ะมาหากจะเลือกเปิดใช้แอร์ในห้องลูกต้องทำอย่างไรบ้าง
- ปรับอุณหภูมิให้ไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป ที่ประมาณ 25-27 องศาเซลเซียส
- ตั้งปรับพัดลมของแอร์ให้เป็นระบบ Auto Swing และตั้ง Sleep โหมด เพื่อทำให้อุณหภูมิในห้องไม่เย็นจนเกินไป และกระจายความเย็นทั่วห้อง
- หลีกเลี่ยงการเปิดแอร์ในตอนเช้าและตอนกลางคืน เพราะอากาศค่อนข้างเย็นอยู่แล้ว
- ตั้งเตียงหรือเบาะนั่งเล่นของลูกเลี่ยงทิศทางลม ไม่ให้อยู่ในระดับทางลมแอร์พัดโดยตรง เพราะเมื่อลมแอร์ตกลงที่ศีรษะเด็กอย่างจัง อาจทำให้เจ้าหนูอาจไม่สบายได้
- เปิดห้องให้อากาศบริสุทธิ์ภายนอกไหลเวียนเข้ามาบ้าง อย่างน้อยวันละ 3-4 ชั่วโมงขึ้นไป รวมทั้งเปิดม่านให้แดดส่องเพื่อฆ่าเชื้อโรคในห้อง
- ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดเฟอร์นิเจอร์ให้ปราศจากฝุ่นดีกว่าการปัดฝุ่น เพราะการปัดจะทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจายยิ่งขึ้น
- หลีกเลี่ยงการใช้แอร์เคลื่อนที่ชนิดเติมน้ำหรือเติมน้ำแข็ง เพราะว่าจะทำให้ลูกหายใจเอาละอองน้ำเข้าไปด้วย ส่งผลให้ปอดบวมหรือปอดชื้นได้
- สำหรับเครื่องฟอกอากาศไม่จำเป็นเท่าไรนัก เพราะว่าปัจจุบันแอร์รุ่นใหม่ที่วางขายสมัยนี้ มีเครื่องฟอกอากาศพร้อมใน เครื่องแล้ว อาจจะลองตรวจสอบอีกครั้งว่า แอร์ที่ใช้อยู่มีระบบฟอกอากาศอยู่หรือเปล่า
นส่วนการเลือกเสื้อผ้าให้กับทารกนั้น มีคำแนะนำดังนี้
1.ผ้าห่อตัว – เด็กทารกบางคนชอบการถูกผ้าห่อตัวให้แน่นเพราะอาจรู้สึกเหมือนกับตอนอยู่ในมดลูกของแม่และเหมาะสำหรับเด็กที่เตะผ้าห่มกระจาย กรณีที่ต้องการใช้ผ้าพันห่อตัวลูกเพื่อให้สงบไม่ร้องไห้งอแงควรเลือกผ้าจากเส้นใยอะครีลิคหรือผ้าฝ้ายผสมกับโพลีเอสเตอร์ง่ายต่อการทำความสะอาดและไม่ก่อภูมิแพ้
2. เลือกชุดขนาด 3 – 6 เดือน – ทารกโตเร็วมากในขวบปีแรกจึงควรซื้อขนาดใหญ่กว่าความเป็นจริงเด็กๆ ไม่จำเป็นต้องมีชุดหลากหลายเหมือนกับผู้ใหญ่ ชุดนอนก็เอามาใส่ตอนกลางวันได้ ควรมีเสื้อผ้า 3-4 ชุดไว้สลับสับเปลี่ยน
3.เลือกผ้าฝ้าย – เพราะระบายอากาศได้ดีเนื้อผ้าที่ใส่สบายคือผ้าฝ้าย 100% หากใส่ชุดที่คลุมฝ่าเท้าด้วย อย่าลืมตรวจดูตะเข็บด้านในว่ามีเส้นด้ายหรือเส้นผมติดอยู่หรือไม่เพราะอาจเกิดปัญหาพันรอบนิ้วเท้าลูกจนเจ็บปวดได้
4. หมวก – ในวันที่ต้องออกแดดควรใส่หมวกปีกกว้างที่มีสายรัดที่คางเพื่อป้องกันไม่ให้แสงแดดที่แรงเกินไปทำอันตรายกับผิวที่บอบบางของลูกในประเทศหนาวจำเป็นต้องใช้หมวกสวมที่ศีรษะของลูกให้อุ่นพอเพราะทารกสูญเสียความร้อนจำนวนมากทางศีรษะควรเป็นหมวกถักเพราะลูกยังหายใจได้หากหมวกเลื่อนลงมาปิดใบหน้า
สุดท้ายนี้แนะนำว่าอย่าเลือกเสื้อผ้าให้ลูกเพราะดูหรูหราสวยงามแต่ไม่สบายตัว ในประเทศที่อากาศหนาวต้องใส่หมวกขณะนอนเพื่อรักษาร่างกายให้อบอุ่นไม่ใส่หมวกที่ใหญ่เกินไปเพื่ออาจเลื่อนหลุดจากศีรษะมาปิดใบหน้าจนหายใจไม่ได้
เรื่องโดย : พญ.สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านทารกแรกเกิด
ภาพ : ShutterStock
Credit: https://www.amarinbabyandkids.com/parenting/baby/baby-development/clothing/